“ดร.ชัยณรงค์ ณ ลำพูน”ฉลองครบรอบ 72 ปี สืบสานเจตนารมณ์ ส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น

“ดร.ชัยณรงค์ ณ ลำพูน”ฉลองครบรอบ 72 ปี
สืบสานเจตนารมณ์ ส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น
 
มากกว่าการให้ธุรกิจเติบโต คือ การส่งต่อให้ลูกหลานและผู้บริหารมืออาชีพอย่างยั่งยืน ในการสืบทอดกิจการต่อไป  งานเลี้ยงฉลองครบรอบ 72 ปี  “ดร.ชัยณรงค์ ณ ลำพูน” หรือ ดร.จ้าว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยครอบครัว ณ ลำพูน จัดขึ้น เรียกได้ว่าพิเศษกว่าทุกปี เพราะนอกจากจะเป็นวันคล้ายวันเกิดของ ดร.จ้าว หนึ่งในผู้ก่อตั้งและสร้างธุรกิจมากับมือเมื่อปี 2526 และได้นำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2563 ด้วยภายใต้ชื่อ บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND   
 
 ปัจจุบันธุรกิจของ IND มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง   และถือเป็นบริษัทชั้นนำด้านวิศวกรรมที่ปรึกษาและออกแบบพร้อมก่อสร้างในการลงทุนโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่ได้รับการยอมรับและได้รับความเชื่อถือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ
 
นับเวลาก็ล่วงเลยมากว่า 40 ปี ที่ดร.ชัยณรงค์ กุมบังเหียนอยู่ใน IND    วันนี้ถึงเวลาที่ต้องส่งผ่านความเป็นเจ้าของสู่ “ทายาทธุรกิจ” ในรุ่นต่อไป   โดยการส่งไม้ต่อให้กับ “ดร.พรลภัส ณ ลำพูน” เข้ามานั่งบริหารงานในตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อรับช่วงต่อในการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
ดร.ชัยณรงค์ กล่าวว่า การส่งต่อความสำเร็จในธุรกิจครอบครัว จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่งหรือทายาทธุรกิจนั้น นับว่าเป็นความท้าทายทั้งในส่วนของตนเองที่เป็นผู้ส่งมอบ รวมถึงผู้รับมอบธุรกิจ เพราะนอกจากการบริหารธุรกิจให้เติบโตแล้ว ยังต้องทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน  ซึ่งการวางแผนสืบทอดธุรกิจจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้กิจการของครอบครัวนั้นสามารถยืนหยัดต่อไปอีกหลายเจเนอเรชั่น จึงให้โอกาสแก่ผู้สืบทอดธุรกิจได้มีส่วนร่วมในการ “คิด ทำ สำเร็จ” ตามมิติของผู้บริหารชุดใหม่ ท้ายที่สุดแล้วเราต้องให้ความเชื่อมั่นและความไว้เนื้อเชื่อใจในการมอบหมายภาระกิจที่สำคัญนี้ให้กับทายาทที่ได้รับมอบหมายในการขับเคลื่อนองค์กร ตามสถานการณ์ของโลกที่ต้องตามให้ทัน เหมาะสม
 สิ่งสำคัญที่ “ทายาทธุรกิจ” หรือผู้นำรุ่นใหม่ต้องตระหนักคือ ธุรกิจครอบครัวไม่ได้มองเพียงแต่กำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองถึงการเติบโตและความยั่งยืนของธุรกิจนั้นด้วย และในด้านของการบริหารจะต้องเป็นการบริหารทั้งด้านธุรกิจ องค์กรและรวมถึงการจัดการความสัมพันธ์ในครอบครัวและความสำคัญของผู้บริหารมืออาชีพที่จะต้องมาร่วมงานแบบทีมเดียวกันในมิติ “คิด ทำ สำเร็จ “ ด้วย